ค่ายสะเต็มเพียงหนึ่งวันนั้น สามารถเปลี่ยนมุมมองของพงศภักดิ์ต่อสะเต็มได้ คำถามต่อมาคือ และเพราะเหตุใด กิจกรรมเช่น การทดลองให้นักเรียนสร้างหนังยางเพื่อยิงลูกปิงปองให้เข้าเป้านั้นจึงกลายเป็นเครื่องมือที่มีพลังในการเปลี่ยนทัศตคติของนักเรียนได้ นั่นก็เพราะ การเปิดโอกาสให้นักเรียนทดลองจริงนับเป็นการสร้างความท้าทายให้กับนักเรียนในการผสมผสานความรู้สะเต็มศึกษา เข้ากับการพยายามใช้ทักษะในศตวรรษที่21 เพื่อบรรลุเป้าหมายให้สำเร็จให้ได้ คำที่มีความหมายธรรมดาอย่างเช่น “บรรลุเป้าหมายให้ได้ (Hit the Target)” นั้นแท้จริง ๆ แล้วก็มีความซับซ้อนในตัวของมันเอง เพราะการจะแก้ไขโจทย์นั้นจะต้องอาศัยหลักการต่าง ๆ เช่น ฟิสิกส์ (ลูกบอลจะลอยอยู่ในอากาศได้อย่างไร), วิศวกรรมศสตร์ (วิธีการสร้างหนังยาง), เรขาคณิต (องศาในการปล่อยหนังยาง) และสาขาวิชาอื่น ๆ ของสะเต็ม นอกจากนี้ นักเรียนจะต้องใช้ความคิดสร้างสรรค์ การแก้ไขปัญหาและทักษะการทำงานเป็นทีม เพราะพวกเขาจะได้รับสิ่งของแปลก ๆ มาเพื่อร่วมกันบรรลุโจทย์ให้ได้ กิจกรรมเหล่านี้ยังมีความเกี่ยวข้องกับการทำงานที่ต้องการประสิทธิภาพสูง อาชีพในศตวรรษที่21 และยังเป็นส่วนหนึ่งที่สำคัญของการสนับสนุน “Smart People” ตามวัตถุประสงค์ของกลยุทธ์ประเทศไทย 4.0 คลิ้กอ่านว่าทำไมเหล่าบรรดา smart company ถึงสนับสนุนโมเดลการศึกษาของคีนัน
อย่างไรก็ดี โรงเรียนยังมีหลายโรงเรียนในประเทศไทยยังคงรูปแบบและวิธีการเรียนการสอนแบบเดิมที่เตรียมนักเรียนให้พร้อมสำหรับอาชีพ แทนที่จะใช้วิธีเตรียมให้นักเรียนพร้อมสำหรับงานที่ทันสมัยและต้องอาศัยการคิดค้นขึ้นใหม่ สำหรับพงศภักดิ์เอง เขาเกิดความอยากรู้อยากเห็นมากขึ้น เพราะโครงการนั้นมีกระบวนวิธีการสอนที่แตกต่างออกไปจากห้องเรียนในโรงเรียนไทยที่เขาเคยเรียนมาตลอดเวลา 9 ปีอย่างมาก แทนที่เขาจะต้องนั่งเฉยๆ และรับฟังจากครูผู้สอนกว่า 8 ชั่วโมง พงศภักดิ์และเพื่อน ๆ กลับได้มีโอกาสฝึกระดมสมองตั้งสมมติฐาน และทดลองเพื่อแก้ไขปัญหาและโจทย์เชิงวิทยาศาสตร์ที่น่าสนใจ หรืออีกนัยหนึ่งคือ พวกเขาเหล่านี้มีส่วนร่วมในการเรียนรู้แบบสร้างสรรค์ที่นับเป็นหัวใจสำคัญของการพัฒนาทักษะที่สำคัญในศตวรรษที่ 21 พงศภักดิ์กล่าวถึงคาราวานการเรียนรู้ที่เขาได้เข้าร่วมว่า “การทำงานเป็นทีมนั้นเป็นสิ่งที่ท้าทาย มีหลายสิ่งที่ผมได้เรียนรู้จากการทำงานกลุ่มและกิจกรรมที่ออกแบบขึ้น ก็เปิดโอกาสให้พวกผมได้เรียนรู้และฝึกฝนต่อการคิดเชิงสร้างสรรค์ริเริ่มสิ่งใหม่ รวมทั้งได้ตัดสินใจร่วมกันกับทีมด้วย”
โครงการ STEM Camp ของสถาบันคีนันฯ สามารถสร้างความประทับใจที่แท้จริงให้กับผู้เข้าร่วมโครงการได้
ในตอนท้ายของวัน พงศภักดิ์ได้กล่าวว่า “สะเต็มศึกษานั้นมีความสำคัญต่อพวกเรามาก ผมหัวงว่านักเรียนคนอื่น ๆ จะมีโอกาสได้เข้าร่วมกิจกรรมแบบนี้เช่นเดียวกัน” จริงอย่างที่พงศภักดิ์ได้กล่าวไว้ มีนักเรียนอีกหลายพันคนในประเทศที่ยังไม่ได้รับโอกาสเพื่อเรียนรู้เกี่ยวกับความมหัศจรรย์ของพลังแห่งการเรียนรู้ในศตวรรษที่21 มาร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการให้โอกาสกับพวกเขากันเถอะ
หากท่านสนใจร่วมสร้างโอกาสเพื่อการเรียนรู้สำหรับเด็กไทย มอบโอกาสและความมหัศจรรย์แห่งการเรียนรู้อย่างที่พงศภักดิ์ได้รับ กรุณากรอกรายละเอียดเกี่ยวกับตัวท่าน พร้อมเบอร์โทรศัพท์ หรืออีเมลล์ เพื่อรับการติดต่อกลับจากเรา