เนื่องจากการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ตลาดรับซื้อสินค้าเกษตรหลายแห่งในประเทศต้องปิดจำหน่ายสินค้าชั่วคราว นอกจากนี้ยังมีการล็อคดาวน์และจำกัดการเดินทาง ส่งผลกระทบต่อการขายสินค้าทางการเกษตรของเกษตรกรไทยกว่า 8 ล้านคนทั่วประเทศ พฤติกรรมผู้บริโภคและความต้องการซื้อสินค้าเกษตรก็มีแนวโน้มเปลี่ยนไป ดังที่เราเรียกว่าการดำเนินชีวิตแนววิถีใหม่ หรือ “New Normal” อย่างไรก็ตามการใช้แพลตฟอร์มดิจิทัลและสื่อออนไลน์เติบโตขึ้นอย่างรวดเร็ว แม้กระทั่งในวงการเกษตร เทคโนโลยีก็เข้ามาพลิกโฉมวิธีการทำเกษตรและการจัดการฟาร์ม ตั้งแต่กระบวนการดูแลดินไปจนถึงขั้นตอนการเก็บเกี่ยวเพื่อทำการซื้อขายออนไลน์
ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) และมูลนิธิคีนันแห่งเอเซีย ร่วมมือกันช่วยเหลือเกษตรกรไทยให้พร้อมก้าวสู่โลกดิจิทัลอย่างยั่งยืน ผ่านโครงการ ‘Digital Marketing for Smart Farmers’ เพื่อให้เกษตรกรตระหนักถึงความสำคัญของการตลาดออนไลน์ และเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขัน ด้วยองค์ความรู้ ทักษะ และเทคโนโลยีด้านการตลาดออนไลน์ โดยมีผู้เชี่ยวชาญด้านดิจิทัลของมูลนิธิคีนันฯ คอยให้คำแนะนำเกี่ยวกับวิธีใช้งานเทคโนโลยีดิจิทัลให้กับกลุ่มเกษตรกร เพื่อผู้เข้าร่วมโครงการสามารถเข้าถึงกลุ่มลูกค้าใหม่และผู้ประกอบการสินค้าเกษตรแปรรูปท่ามกลางช่วงวิกฤตการณ์ได้ จุดเด่นของโครงการฯ คือ การฝึกอบรมเพื่อพัฒนาทักษะการตลาดออนไลน์ผ่านสื่อโซเชียลมีเดีย เช่น Facebook, Instagram จากการสำรวจข้อมูลของสำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร (สศก.) ในช่วงนโยบายล็อกดาวน์รอบแรก (มีนาคม 2563) ปรากฏว่ากลุ่มเกษตรกรอัจฉริยะ หรือ Smart Farmer ที่ขายสินค้าเกษตรออนไลน์มียอดขายเพิ่มขึ้นถึงร้อยละ 26 โดยกลุ่มเกษตรกรร้อยละ 57 มียอดขายสินค้าเฉลี่ยต่อเดือนเพิ่มขึ้น
ลงขายออนไลน์ที่ไหนดี
โซเชียลมีเดีย ถือเป็นช่องทางการทําตลาดเกษตรออนไลน์ที่ง่ายที่สุด ซึ่งโซเชียลมีเดียที่ได้รับความนิยมสูงสุดในโลกคงหนีไม่พ้น Facebook ในประเทศไทยก็เช่นเดียวกัน มีคนไทยใช้งานเฟซบุ๊คมากถึง 54.57 ล้านคน นอกจากจะมีกลุ่มผู้ใช้ที่ใหญ่มากแล้ว เฟซบุ๊คยังเป็นช่องทางการทําตลาดเกษตรออนไลน์ ที่มีเครื่องมือช่วยเกษตรกรผู้ขายออนไลน์ได้ทุกกระบวนการตั้งแต่การนำเสนอสินค้า พูดคุยกับลูกค้า การจัดการโฆษณา ไปจนถึงการปิดการขาย
Facebook ไลฟ์สดเปลี่ยนชีวิต
การนำเสนอคอนเทนต์ด้วยวิธีการที่น่าสนใจสามารถเปลี่ยนสินค้าเกษตรธรรมดา ให้มีมูลค่าน่าซื้อสำหรับลูกค้าได้ และเครื่องมือหนึ่งของเฟซบุ๊คที่ดึงดูดผู้บริโภคได้อย่างมากก็คือ Facebook Live (การถ่ายทอดสด) หรือการไลฟ์สดนั่นเอง การไลฟ์สดทำให้ผู้คนที่อยู่ไกลกันได้รู้สึกใกล้ชิดกันมากขึ้น ซึ่งในช่วงกลางปี 2563 เมื่อการระบาดของโรคโควิด-19 เพิ่มขึ้นอย่างรุนแรงและมีการล็อคดาวน์ในหลายประเทศ การใช้งาน Facebook Live นั้นเพิ่มขึ้นถึงร้อยละ 26.8 เลยทีเดียว พ่อค้าแม่ค้าออนไลน์ไทยหลายรายใช้การไลฟ์สดเรียกลูกค้าได้อย่างเป็นกอบเป็นกำ เช่น เกษตรกรเงินล้านอย่างบังฮาซัน จากเพจ ฮาซัน อาหารทะเลตากแห้ง จ.สตูล (www.facebook.com/HasunDriedSeafood) ที่พลิกธุรกิจอาหารทะเลตากแห้งแสนธรรมดา ด้วยลีลาการขายที่เข้าถึงได้ง่ายและสนุกสนาน ทำให้กลายเป็นกระแส มีแฟนรอชมถ่ายทอดสดและซื้อสินค้าทุกไลฟ์ อีกกรณีตัวอย่างหนึ่งไม่นานนี้ เกษตรกรเจ้าของไร่แตงโมแห่งหนึ่งในจังหวัดสุโขทัยได้รับผลกระทบจากวิกฤติโควิด-19 ทำให้ไม่มีพ่อค้าไปรับซื้อสินค้าผลผลิต จึงไลฟ์สดขายแตงโมในราคาถูก เกิดเป็นปรากฏการณ์ “คนไทยไม่ทิ้งกัน” แตงโมกว่า 100 ตันขายหมดในชั่วข้ามคืน
ขายสินค้าออนไลน์อย่างไรให้ปังหากต้องการเติบโตบนโลกธุรกิจออนไลน์ เกษตรกรก็ควรใช้เวลาทำความเข้าใจลูกค้า เข้าใจเครื่องมือการตลาดออนไลน์ต่างๆ และเรียนรู้ที่จะเก็บข้อมูลเพื่อใช้ในการพัฒนาการสื่อสารกับลูกค้า แพลตฟอร์มการขายออนไลน์หลายแห่ง รวมถึง Facebook มีเครื่องมือและข้อมูลเพื่อให้เจ้าของสินค้าเอาไปใช้วางแผนการสื่อสารที่เหมาะสมได้ เช่น Facebook มีเครื่องมือ “ข้อมูลเชิงลึก” บอกข้อมูลการใช้งานเพจ เช่น การเข้าถึง การมีส่วนร่วม สถิติเปรียบเทียบกับเพจคู่แข่ง เป็นต้น ถ้ารู้จักพื้นฐานการตลาดและเครื่องมือดีพอแล้ว การเข้าถึงใจของลูกค้าก็ไม่ใช่เรื่องเกินเอื้อมเลย
มูลนิธิคีนันแห่งเอเซีย โดยการสนับสนุนของธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) ได้มีส่วนร่วมเพิ่มพูนทักษะการตลาดออนไลน์แก่เกษตรกรยุคใหม่จำนวน 48 คน ผ่านโครงการ “พัฒนาผู้ประกอบการเกษตรเพื่อการตลาดออนไลน์ผ่าน Facebook” ด้วยหลักสูตรที่ถูกออกแบบและพัฒนาโดยเฟซบุ๊คและมูลนิธิคีนันแห่งเอเซีย เราช่วยให้เกษตรกรเข้าใจตั้งแต่พื้นฐานความรู้ในการทำธุรกิจ การตลาดออนไลน์ การเริ่มเปิดเพจ Facebook การสร้างคอนเทนต์อย่างไรให้ปัง และการเข้าใจข้อมูลเชิงลึกของเพจ เกษตรกรที่เข้าร่วมการอบรมกับเรามีความมั่นใจมากขึ้นในการใช้เฟซบุ๊คในขายสินค้าเกษตรออนไลน์
เจ้าของเพจมือใหม่ที่ยังไม่มั่นใจการทำการตลาดออนไลน์บนเฟซบุ๊ค หรือต้องการเรียนรู้เทคนิคเพื่อปรับปรุงเพจและเพิ่มยอดขาย สามารถติดตามข่าวการอบรมกับคีนันได้ที่ www.kenan-asia.org และ www.facebook.com/KenanThailand
บทความโดย อารัมภ์ เล็กอุทัย ที่ปรึกษาด้านพัฒนาเศรษฐกิจและธุรกิจ มูลนิธิคีนันแห่งเอเซีย