มิส เหงียน ทีหวง เหลียน นักศึกษาหญิงชาวเวียดนามวัย 19 ปี ตระหนักรู้ถึงความสำคัญที่จะต้องส่งเสริมเยาวชนสตรีในประเทศฯ แม้มีอีกหลายคนรู้สึกกลัวถึงความท้าทายที่รออยู่ แต่มิสเหลียนก็มุ่งมั่นเดินต่อไปข้างหน้า
แม้มีงบตั้งต้นเพียง 100 เหรียญดอลล่าร์สหรัฐ ประกอบกับความรู้ด้านการตลาดเพียงเล็กน้อย แต่มิสเหลียนก็เต็มเปี่ยมไปด้วยความตั้งใจที่จะช่วยเหลือคนอื่นๆ มิสเหลียนจึงได้จัดกิจการทัวร์ ภายใต้ชื่อว่า “ฉันรักเมืองเว้” โดยมีเพียงผู้หญิง เท่านั้นที่ร่วมบริหารในกิจการท่องเที่ยวนี้ จากนั้นให้หลังสามปี กิจการทัวร์“ฉันรักเมืองเว้” ก็ประสบความสำเร็จอย่างล้นหลาม และ มิสเหลียนเอง ก็มองหาที่จะช่วยให้โลกใบนี้ให้น่าอยู่และน่าท่องเที่ยวยิ่งขึ้น ด้วยการขยับขยายกิจการเพื่อเป็นเครื่องมือหนึ่งในการร่วมแก้ไขปัญหาสังคมในประเทศ ฯ
มิส เหลียน เกิดที่จังหวัด ชวง ทรี ในตอนกลางของประเทศเวียดนาม โดยเริ่มต้นทำงานในฐานะอาสาสมัครใน โรงเรียน ซึ่งไม่นานนัก เธอก็ค้นพบว่าเธอมีความมุ่งมั่นที่จะในอาชีพนี้อย่างแท้จริง เธอกล่าวว่า “ฉันรู้สึกมีความสุขมากเมื่อได้ช่วยเหลือผู้อื่น”
มิสเหลียน ได้สานต่อความมุ่งมั่นให้เกิดขึ้น หลังจากได้ย้ายไปเรียนต่อระดับมหาวิทยาลัยในจังหวัด เว้ ประเทศเวียดนาม เธอได้จัดกิจกรรมท่องเที่ยวด้วยรถมอเตอร์ไซด์ เพื่อไปชมสถานที่ท่องเที่ยวสำคัญๆต่างๆในเมือง อาทิ พิพิทธภัณฑ์ จุดภูมิทัศน์ที่สวยงามต่างๆ รวมถึงร้านอาหารชื่อดังในเมือง หากสงสัยว่ากิจกรรมนี้เกิดผลลัพธ์ที่ดีอย่างไรบ้าง เราสามารถสืบค้นใน โปรแกรม Trip Advisor และจะพบมากกว่า 271 บทความพูดถึงกิจกรรมของเธอ
กลุ่มทัวร์ “ฉันรักเมืองเว้” แตกต่างไปจากทัวร์อื่นๆ ซึ่งกลุ่มนักศึกษาหญิง เป็นผู้นำการบริหารจัดการ ซึ่งก็ได้ กลุ่มกิจการเพื่อสังคม มาช่วยสนับสนุน ขยับขยายต่อให้ ให้ทั่วถึงไปยังกลุ่มผู้ด้อยโอกาสในสังคม อาทิ ผู้พิการ เด็กกำพร้า รวมถึง สตรี ในประเทศฯ ซึ่งกิจกรรมของกลุ่มทัวร์นี้ ก็ยังได้นำการสื่อสารด้วยสัญลักษณ์มือมาใช้ และนับเป็น กิจการทัวร์แห่งแรกในประเทศเวียดนามที่เอื้อเฟื้อการสื่อสารลักษณะนี้
เมื่อเร็วๆนี้ โครงการบ่มเพาะธุรกิจท่องเที่ยวแนวใหม่ในภูมิภาคลุ่มน้ำโขง (MIST) ได้สถาปนารางวัล “WISE Women’s Leadership Award” ให้กับ มิสเหลียน ในฐานะผู้ทำคุณประโยชน์ให้กับกิจการเพื่อสังคม โดยหลังจากได้รับรางวัล เธอก็มิได้หยุดพักการทำงานแต่อย่างใด และยังได้เริ่มพัฒนารูปแบบของกิจการทัวร์ให้เป็นที่รู้จักไปทั่วประเทศเวียดนาม ด้วยความมุ่งมั่นที่ว่าวันหนึ่งจะต้องเป็นที่รู้จักไปทั่วทั้งเอเชีย ซึ่งกิจกรรม “ฉันรักเวียดนาม” และ “ฉันรักอาเซียน” จะกลายเป็นกิจกรรมที่แสดงถึงนวัตกรรมใหม่แห่งกิจการ การท่องเที่ยว ที่มีกลุ่มสุภาพสตรีนำทัพขี่รถมอเตอไซด์ไปตามจุดสำคัญๆต่าง ในภูมิภาคนี้
ด้วยความพยายามอย่างแรงกล้าที่จะพัฒนา ทักษะด้านธุรกิจและความรู้ด้านเศรษฐศาสตร์ มิสเหลียนจึงริเริ่มสมัครและได้รับการคัดเลือกเข้าร่วมโครงการ YSEALI (วายซิลี่) เพื่อเข้าร่วมอบรมใน เวิร์กช็อปของโครงการฯ โดย โครงการนี้ริเริ่มโดย ประเทศสหรัฐอเมริกา เพื่อสร้างเครือข่ายระดับภูมิภาคและพัฒนาทักษะความเป็นผู้นำในหมู่เยาวชนอาเซียน จัดขึ้น วันที่ 1- 4 สิงหาคม 2560 โดยมีเยาวชนผู้ได้รับการคัดเลือกกว่า 80 คน อายุระหว่าง 18 – 25 ปี จากทั่วภูมิภาคนี้ ภายใต้วัตถุประสงค์เพื่อเพื่อสร้างความเข้าใจในนโยบายรวมถึงกระบวนการทำงานของประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน ซึ่งมูลนิธิคีนันแห่งเอเซียได้รับเกียรติเป็นผู้ออกแบบกิจกรรมเวิร์กช็อปครั้งนี้ และเป็นผู้ดำเนินโครงการฯ ร่วมกับ สถานทูตสหรัฐฯ ในกรุงฮานอย พร้อมด้วย กระทรวงการต่างประเทศสหรัฐ และศูนย์การพัฒนาการศึกษายั่งยืน หรือ Centre for Sustainable Development Studies (CSDS) นับเป็นครั้งที่สอง ที่มูลนิธิคีนันแห่งเอเซีย ได้ดำเนินโครงการร่วมกับกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐ เพื่อเสริมสร้างแนวคิดให้กับ ประชาสังคม ในภูมิภาคแห่งนี้ นับเป็นการต่อยอดจากความสำเร็จของโครงการพัฒนาความเป็นอยู่ของกลุ่มสตรีในประเทศเวียดนามและการพัฒนาทักษะด้านผู้นำ ซึ่งเป็นการเสริมสร้างขีดความสามารถให้กับ องค์การประชาสังคมในการช่วยเหลือกลุ่มสตรีในประเทศให้สามารถทำงานสนับสนุนภาครัฐได้อย่างมีประสิทธิภาพ
คีนันฯ พร้อมด้วย เครือข่ายพันธมิตรจึงได้วางโปรแกรมสำหรับกิจกรรมสี่วันเต็มครั้งนี้ โดยมุ่งเน้นให้เยาวชนผู้เข้าร่วมโครงการทุกคน รู้จักคิด แยกแยะ และอภิปรายปัญหา พร้อมเสนอแนะ วิธีการสู้กับประเด็นต่างๆที่เกิดขึ้นในภูมิภาคนี้ ด้วยการเสนอแนะจาก นักเศรษฐศาสตร์ นักกำหนดนโยบาย ผู้นำองค์กรพัฒนาเอกชน และผู้บริหารองค์กร ซึ่งผู้นำเยาวชนทุกคนจะได้ร่วมกันคิดวางแผนและเสนอวิธีการสร้างแผนพัฒนาเศรษฐกิจที่ยั่งยืนในภูมิภาคอาเซียนนี้ โดยกระบวนการทั้งหมดจะช่วยสร้างแรงจูงใจให้กับเยาวชนทุกคน กระตือรือร้น ที่จะช่วยสร้างให้ทุกประเทศในภูมิภาคนี้ เป็นหนึ่งเดียวสามัคคีกัน มีความเท่าเทียมกัน และเติบโตไปข้างหน้าด้วยกัน
นอกเหนือจากการร่วมมือพัฒนาเศรษฐกิจและสร้างความรู้ให้ทั่วถึงกันแล้ว กลุ่มผู้นำเยาวชนจะได้ร่วมกันสร้างเครือข่ายเพื่อแลกเปลี่ยน ความคิดต่างๆ รวมถึงเรียนรู้วัฒนธรรมที่หลากหลายของแต่ละประเทศในภูมิภาคอาเซียน มิสเหลียน ยังกล่าวเพิ่มเติมว่า เธอตั้งตาคอยที่จะได้พบกับกลุ่มผู้นำเยาวชนจากทุกประเทศๆในอาเซียน ซึ่งนับเป็นโอกาสสำคัญครั้งใหญ่ ในการเรียนรู้ร่วมกัน เพื่อทุกๆคนจะได้ร่วมมือกันช่วยสร้างให้โลกใบนี้ให้น่าอยู่ยิ่งขึ้น
การสัมนาเชิงปฏิบัติการ หรือ เวิร์กช็อป ในครั้งนี้จะช่วยขับเคลื่อนผู้นำเยาวชนทุกคน ให้สามารถบรรลุความฝันให้เป็นจริงได้เร็วยิ่งขึ้น สำหรับมิสเหลียนแล้ว โครงการนี้ นับเป็นการพัฒนากิจการเพื่อสังคมของเธอและเป็นเครื่องมือสำคัญ ไปสู่การพัฒนาสังคม และยังช่วยประชาสัมพันธ์ กิจกรรมดีๆเหล่านี้ให้เป็นที่รู้จักไปทั่วทั้งเอเชียอีกด้วย
รู้จักกับ มิสเหลียน และทัวร์ “ฉันรักเมืองเว้” ได้ที่ https://ilovehuetour.com/