“พนักงานระดับปฎิบัติการในภาพรวมยังขาดทักษะการคิดเชิงวิเคราะห์และการแก้ไขปัญหา ทำให้เวลาเจอสถานการณ์ที่ต่างจากที่เคยทำมาก่อนจะทำงานไม่ได้ ต้องรอถามหัวหน้าอย่างเดียว ทำให้แรงงานคนไทยเสียเปรียบแรงงานต่างชาติที่เข้ามาหางานในเมืองไทยค่อนข้างมาก หากเรายกระดับทักษะการคิดเชิงวิเคราะห์และการแก้ไขปัญหา ภาวะผู้นำ รวมถึงการสื่อสารอย่างมีประสิทธิภาพให้ดีได้ เราจะสามารถมอบความพึงพอใจสูงสุดให้กับลูกค้าของเราได้อย่างเห็นได้ชัด” มุมมองจาก คุณพรรณิดา เพ็งพิกุล เกี่ยวกับทักษะสำคัญที่แรงงานยุคปัจจุบันต้องเร่งพัฒนาตนเอง
คุณพรรณิดา เพ็งพิกุล หรือคุณหญิง ปัจจุบันดำรงตำแหน่ง Talent & Culture Manager โรงแรมโนโวเทล กรุงเทพ สุขุมวิท 20 (NOVOTEL BANGKOK SUKHUMVIT 20) และเป็นหนึ่งในตัวแทนจากภาคธุรกิจโรงแรมเข้าร่วมโครงการ “เตรียมทักษะด้านบริการแก่เยาวชนไทยสู่การโรงแรม” ดำเนินการโดยมูลนิธิคีนันแห่งเอเซีย ภายใต้งบประมาณสนับสนุนจากมูลนิธิซิตี้ โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อมุ่งเสริมสร้างและพัฒนาทักษะที่จำเป็นแห่งศตวรรษที่ 21 ทักษะด้านการทำงานอย่างมีประสิทธิภาพ และความรู้เรื่องการบริหารการเงินส่วนบุคคลให้แก่เยาวชนที่มีรายได้น้อย เพื่อช่วยให้เยาวชนได้รับการจ้างงานที่มีคุณภาพและสามารถบรรลุเป้าหมายทางการเงินในระยะยาวได้ โดยคุณหญิงเป็นหนึ่งในทีมงานที่ได้ร่วมพัฒนาหลักสูตรการฝึกอบรมของโครงการฯ กับคีนัน โดยเน้นเนื้อหาเกี่ยวกับทักษะด้านต่าง ๆ ที่เยาวชนต้องเร่งพัฒนา โดยเฉพาะทักษะที่จำเป็นสำหรับศตวรรษที่ 21 หรือทักษะ 4C
คุณหญิง เล่าเพิ่มเติมว่า พนักงานระดับปฎิบัติการในภาพรวมยังขาดทักษะการคิดเชิงวิเคราะห์และการแก้ไขปัญหา รวมทั้งภาวะผู้นำ ทำให้เวลาเจอสถานการณ์ที่ต่างจากที่เคยทำมาก่อนจะทำงานไม่ได้ ต้องรอถามหัวหน้าอย่างเดียว ซึ่งเมื่อวิเคราะห์เนื้องานไม่เป็นก็ย่อมส่งผลให้การทำงานร่วมกับผู้อื่นไม่ราบรื่น และที่สำคัญจะส่งผลต่อการสื่อสารต่อทีมงานคนอื่น ๆ อีกด้วย ดังนั้นแล้วหากพนักงานขาดทักษะเหล่านี้ก็ย่อมจะส่งผลให้ธุรกิจ โดยเฉพาะธุรกิจการโรงแรมไม่สามารถสร้างความพึงพอใจสุงสุดในการให้บริการกับลูกค้าได้ และอาจส่งผลให้ลูกค้าไม่กลับมาใช้บริการอีกครั้งในอนาคต
“นับเป็นความโชคดีของโรงแรมโนเวเทลฯ ที่ได้มีโอกาสรับเชิญจากคีนันให้เข้าร่วมพัฒนาหลักสูตรการอบรมภายใต้โครงการฯ ทำให้ได้เห็นเทคนิคการจัดกิจกรรมที่ต่างออกไปจากที่อื่น เช่น กิจกรรมที่เน้นการมีส่วนร่วมให้เกิดการคิดเชิงวิเคราะห์ผ่านประสบการณ์ร่วมกันในทีม เพื่อนำไปสู่การแก้ไขปัญหาอย่างสร้างสรรค์ และผู้เข้าร่วมโครงการฯ ได้ฝึกทักษะการนำเสนองาน ซึ่งเป็นทักษะที่นายจ้างแต่ละที่อยากเห็นจริง ๆ ในปัจจุบัน รวมถึงทักษะ Hard skills ในด้านการบริการอาหารและเครื่องดื่ม (Food & Beverage Service) ที่ได้รับจากโครงการฯ โดยตรง เช่น ความรู้ด้านโภชนาการ การบริการลูกค้าให้ประทับใจ ความรู้เรื่องเครื่องดื่มแต่ละประเภท มารยาทบนโต๊ะอาหาร และกระบวนการการให้บริการลูกค้าเมื่อมาถึงโต๊ะอาหาร เป็นต้น ผ่านการอบรมเชิงปฏิบัติการที่เน้นการมีส่วนร่วมในกิจกรรมจริง ๆ และมีความสนุกสนานระหว่างเรียน นอกจากนี้ทางโรงแรมฯ ยังได้มีโอกาสทำความรู้จักกับอาจารย์มหาวิทยาลัยทำให้เกิดเป็น connection ใหม่ ๆ ที่โรงแรมจะได้มีโอกาสรับนักศึกษามาฝึกษางานหรือเป็นพนักงานในอนาคต รวมถึงการเป็นสถานประกอบการที่ได้ไปศึกษาดูงานกับทางมหาวิทยาลัยอีกด้วย”
คุณหญิงยังได้แชร์มุมมองถึงความตั้งใจที่อยากนำความรู้ที่ได้แลกเปลี่ยนร่วมกันในโครงการฯ ไปใช้เป็นหนึ่งในแผนพัฒนาบุคลกรโรงแรมฯ โดยโรงแรมก็เริ่มเตรียมพร้อมปรับตัวหากทุกอย่างกลับสู่สภาวะปกติในอนาคต ทั้งในด้านการบริหารจัดการจำนวนพนักงานให้เหมาะสมกับปริมาณงาน โดยต่อไปคนหนึ่งคนจะต้องได้รับการฝึกฝนให้ทำได้หลากหลาย ใช้เทคโนโลยี และ social media มากขึ้น และ Virtual training จะจำเป็นมากต่อไปนับจากนี้ สิ่งที่สำคัญอย่างยิ่งอีกข้อก็คือ ในด้านการปรับรูปแบบการบริการและรูปลักษณ์สินค้าเพราะพฤติกรรมลูกค้าอาจสั่งออนไลน์มากขึ้น โรงแรมจึงต้องพัฒนาระบบการสั่งอาหาร รูปลักษณ์ภาชนะ และหน้าตาของอาหารจานนั้น ๆ ให้ดูน่าทาน รวมถึงขั้นตอนการทำงานต้องกระชับทันใจผู้บริโภคอีกด้วย
ทักษะในศตวรรษที่ 21 ผ่านประสบการณ์การเรียนรู้ด้วยการฝึกลงมือปฏิบัติจริง จะช่วยให้พนักงานได้รับประสบการณ์อันล้ำค่าจากสถานที่ทำงาน และได้รับโอกาสการจ้างงานที่มีคุณภาพในอนาคต ซึ่งถือว่าเป็นสิ่งสำคัญสำหรับพนักงานทุกคนที่ต้องหมั่นเรียนรู้อย่างต่อเนื่อง “lifelong learner” หรือ ด้วยการการแสวงหาทักษะและความสามารถใหม่ ๆ อยู่เสมอ“คนทำงานทุกคนก็ต้องหมั่นเรียนรู้เพิ่มเติม เพื่อให้พร้อมเป็นคนทำงานที่มีทักษะและทันต่อยุคสมัยอยู่เสมอ เพื่อเราจะได้เห็นสถานประกอบการที่เราอยู่ มีความเติบโต ก้าวหน้า ได้อย่างมั่นคงและยั่งยืน” คุณหญิงกล่าวปิดท้าย
อ่านบทความจากพันธมิตรของคีนันเพิ่มเติมได้ที่ www.kenan-asia.org/partner-with-us/