ข่าวสารโครงการ Chevron Enjoy Science

Enjoy Science เสนอ 3 โมเดล TVET Hub หวังปฎิรูปอาชีวะไทย
งาน Special STEM Thailand Forum 2nd: The Role of Private Sector in STEM-Related TVET Education“Designing Phase and Discussion for Next Step” จัดขึ้นเมื่อวันที่ 1 กันยายน 2558 ด้วยความร่วมมือของกรมพัฒนาฝีมือแรงงาน กระทรวงแรงงาน เพื่อให้ที่ปรึกษาของโครงการ Chevron Enjoy Science ทั้งสองท่าน คือ นายแพททริก โจนส์ และ นายร็อบ สโตเวลล์ จาก Chisholm Institute ประเทศออสเตรเลียได้นำเสนอรูปแบบการจัดตั้งศูนย์ TVET (TVET Hub) ที่ออกแบบร่วมกับผู้มีส่วนเกี่ยวข้องจากภาคส่วนต่างๆ
นายร็อบ สโตเวลล์ ได้กล่าวถึงหน้าที่หลักของศูนย์ TVET ในการพัฒนาศักยภาพทรัพยากรมนุษย์ 6 ข้อคือ 1. การสร้างพันธมิตรที่แข็งแกร่งระหว่างภาคการศึกษาและภาคอุตสาหกรรม 2.การพัฒนาหลักสูตรสะเต็มศึกษาและTVET เพื่อฝึกทักษะที่ตลาดต้องการ 3.การใช้ทรัพยากรที่มีประสิทธิภาพ 4. การฝึกนักศึกษาให้มีความสามารถทางด้านสะเต็ม 5. การพัฒนาคุณภาพครูผู้สอนทางด้าน TVET ให้มีทักษะทางด้านเทคนิค อุตสาหกรรมและวิธีการสอนที่ถูกต้อง และ 6. การสร้างภาพลักษณ์ที่ดีสำหรับ TVET
หลังจากการประชุมร่วมกับผู้มีส่วนเกี่ยวข้องกว่า 20 องค์กร นายสโตเวลล์และทีมงานโครงการ Chevron Enjoy Science ได้นำเสนอรูปแบบการจัดตั้งศูนย์ TVET 3 แบบให้สอดคล้องกับความหลากหลายของภาคอุตสาหกรรมในภูมิภาคต่างๆในประเทศไทย แบบที่หนึ่งคือรูปแบบที่มีภาคอุตสาหกรรมเป็นผู้ขับเคลื่อน (Industry-Led TVET Hub) แบบที่สองคือรูปแบบที่มีมหาวิทยาลัยเป็นผู้ขับเคลื่อน (University-Led TVET Hub) และแบบที่สามคือรูปแบบที่มีภาคธุรกิจเป็นผู้ขับเคลื่อน (Business-Led TVET Hub)
สำหรับในปีแรกของโครงการ Chevron Enjoy Science โครงการจะดำเนินการโดยการสร้างความร่วมมือกับ TVET Hub สองแห่ง คือ Automotive Human Resource Development Academy(AHRDA) ที่ จ.สมุทรปราการ ภายใต้กรมพัฒนาฝีมือแรงงานที่มีภาคอุตสาหกรรมเป็นผู้ขับเคลื่อน โดย AHRDA จะให้ความช่วยเหลือในส่วนของการอบรมทางด้านสะเต็มและความรู้ทางเทคนิคของครู และจะทำงานร่วมกับมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรีเพื่อพัฒนาสะเต็มศึกษาสำหรับนักเรียนอาชีวศึกษา และมีกรมพัฒนาฝีมือแรงงานและสถาบันไทย-เยอรมันให้ความช่วยเหลือทางด้านการอบรมทักษะทางเทคนิคและการจ้างงานสำหรับนักเรียนปวส. ทั้งนี้ AHRDA จะมุ่งเน้นไปที่อุตสาหกรรมชิ้นส่วนยานยนต์
TVET Hub แห่งที่สองดำเนินงานด้วยการสร้างความร่วมมือกับมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลล้านนา จ.เชียงใหม่ ที่มีมหาวิทยาลัยเป็นผู้ขับเคลื่อน โดยจะให้ความช่วยเหลือด้านการอบรมครูทางด้าน TVET และสะเต็มศึกษา การพัฒนาหลักสูตร การพัฒนาวิชาชีพ การพัฒนาโครงสร้างของ Hub การประเมินผลและการประชาสัมพันธ์ TVET โดยจะมุ่งเน้นไปที่สามอุตสาหกรรมคือ การเกษตรและอาหาร ยานยนต์และชิ้นส่วนยานยนต์และชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ ด้วยรูปแบบการดำเนินงานแบบความร่วมมือภาครัฐ-เอกชนที่บริษัทเอกชนจะเข้ามามีส่วนร่วมในการสร้างระบบการเรียนรู้จากการทำงานสำหรับนักศึกษา เช่นบริษัทมิชลินในส่วนของอุตสาหกรรมชิ้นส่วนยานยนต์ และ BDI Group ในส่วนของชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์
โดยงานในครั้งนี้ได้รับความสนใจจากทั้งภาครัฐ ภาคเอกชน และภาคการศึกษาที่ได้ร่วมให้ความเห็นเพื่อพัฒนาระบบ TVET ในประเทศไทย และถือเป็นงานเสวนาโต๊ะกลมครั้งที่สองของโครงการ Chevron Enjoy Science ที่มีเป้าหมายเพื่อส่งเสริมความตระหนักด้านสะเต็มศึกษา และ TVET ในประเทศไทย
กิจกรรมล่าสุด
Bangkok Mini Maker Faire
การประวิชาชุมการระดับชาติ “การยกระดับคุณภาพการศึกษาวิทยาศาสตร์ขั้นพื้นฐาน”
กิจกกรม Pre-Teaching Service
พิธีลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือ
กิจกรรม Thailand STEM Festivals
กิจกรรมในครั้งนี้เป็นส่วนหนึ่งของการสร้างความตระหนักรู้ทางด้านสะเต็มศึกษาและ การศึกษาเพื่อพัฒนาทักษะอาชีพ หรือ(Technical Vocational Education and Training – TVET)ของโครงการ Chevron Enjoy Science โดยในงานสัมมนาเชิงปฏิบัติการมีผู้เข้าร่วมกิจกรรมทั้งหมด 159 คนใน 3 จังหวัด
กิจกรรม “สนุกวิทย์ เพื่อครอบครัวและบุตรหลานสื่อมวลชน”
ข่าวสารสะเต็มศึกษา
ความสำคัญของการเรียนรู้จากการทำงานจริง (Work-Based Learning)
นายริชาร์ด สวีท Professorial Fellow จาก Graduate School of Education,University of Melbourne ได้กล่าวถึงประโยชน์จากการเรียนรู้จากการทำงานจริงในหลากหลายวัฒนธรรม โดยการเรียนรู้จากการทำงานจริงสามารถยกระดับความสามารถทางการผลิตและนวัตกรรมของนักศึกษาได้อย่างดีเยี่ยม ระบบอาชีวศึกษาของประเทศเยอรมันได้ใช้ระบบการเรียนรู้ภายในขององค์กร และเมื่อเปรียบเทียบทักษะแรงงานของประเทศเยอรมันและอังกฤษ บริษัทเยอรมันมีความสามารถทางการผลิตที่สูงกว่าอย่างชัดเจน
“งานศึกษาชิ้นนี้นอกจากจะกล่าวถึงความเชื่อมโยงในเรื่องของการพัฒนาทักษะด้วยการฝึกงานภายในบริษัท (ประเทศเยอรมัน) แล้ว ยังกล่าวถึงความสำคัญของคุณภาพทักษะแรงงานที่มีผลต่อความสามารถทางการผลิตขององค์กรเมื่อเปรียบเทียบกับองค์กรที่มีทักษะต่ำ” นายสวีทกล่าว
การเรียนรู้จากการทำงานจริงคือสิ่งที่สำคัญที่จะดึงดูดให้เยาวชนสนใจอาชีวศึกษาและนักศึกษาที่ขาดแรงบันดาลในการเรียนรู้จากการปฏิบัติงานจริงจะช่วยให้ผู้เรียนได้ทำงานโดยตรงร่วมกับชุมชนและองค์กรภายใต้การดูแลของครูพี่เลี้ยง (mentor) ซึ่งจะเป็นประโยชน์อย่างมาก นักศึกษาได้มีโอกาสประยุกต์วิชาที่เรียนสู่การทำงานจริง โดยประสบการณ์เหล่านี้จะเป็นประโยชน์ต่อนักศึกษาในด้านทักษะการแก้ปัญหาและความรู้ในบริบทต่างๆ รวมถึงการสร้างเครือข่ายและโอกาสพัฒนาอาชีพให้มีความหลากหลาย
นอกจากนี้ การเรียนรู้จากการทำงานจริงจะช่วยให้เยาวชนมีช่วงเปลี่ยนผ่านสู่ผู้ใหญ่ได้อย่างราบรื่น โดย นายสวีท กล่าวถึงความเชื่อมโยงระหว่างการเรียนรู้จากการทำงานจริงของนักเรียนสู่การจ้างงานหลังจบการศึกษา นักศึกษาในประเทศเนเธอร์แลนด์ สวิตเซอร์แลนด์ เดนมาร์ก ไอซ์แลนด์ และออสเตรเลีย ที่การศึกษาได้ใช้ระบบการเรียนรู้จากการทำงานจริง มีโอกาสได้งานทำหลังจากจบการศึกษามากกว่านักศึกษาจากประเทศอย่างฝรั่งเศสและอิตาลีที่มีระบบการศึกษาแบบแยกส่วน
การเรียนรู้จากการทำงานจริงแบบบูรณาการคือวิธีการที่มีประสิทธิภาพที่จะสามารถพัฒนาหลักสูตร TVET และเพิ่มศักยภาพของแรงงาน ซึ่งไม่ใช่แค่ภาคอุตสาหกรรมและธุรกิจเท่านั้นที่จะได้ประโยชน์ แต่นักศึกษายังได้เรียนรู้ทักษะสร้างเครือข่ายและเพิ่มโอกาสทางอาชีพ และด้วยความต้องการแรงงานที่มีทักษะในโลกปัจจุบันเพิ่มมากขึ้น จึงเป็นเรื่องสำคัญที่ภาคอุตสาหกรรม รัฐบาล สถาบันอาชีวศึกษาจะพัฒนาการเรียนรู้จากการทำงานจริงแบบบูรณาการ
อ่านเพิ่มเติม: Revisiting Global Trends in TVET: Reflections on Theory and Practice
บทความ โดย ผศ.ดร.อมรา เขียวรักษา
การสืบเสาะหาความรู้: วิธีการเพิ่มพลังแห่งความคิดทางวิทยาศาสตร์
ผู้อำนวยการสถาบันพัฒนาคุณภาพครู มหาวิทยาลัยราชภัฎราชนครินทร์
การสืบเสาะหาความรู้ทางวิทยาศาสตร์(Scientific Inquiry) เป็นวิธีการที่นักวิทยาศาสตร์ใช้ในการศึกษาธรรมชาติในแง่มุมต่างๆ ประกอบด้วยทักษะกระบวนการที่หลากหลายเริ่มตั้งแต่การรู้จักสังเกต ตั้งคำถาม รวบรวมข้อมูล ค้นคว้าทดลอง อภิปราย เผยแพร่ พิจารณาไตร่ตรอง เพิ่มเติมองค์ความรู้ใหม่อยู่เสมอ แต่ถ้ามองในมุมของโรงเรียน การสืบเสาะหาความรู้ทางวิทยาศาสตร์ หมายถึงกิจกรรมการเรียนรู้ของนักเรียนเพื่อให้เข้าใจแนวคิดของนักวิทยาศาสตร์และเข้าใจว่านักวิทยาศาสตร์ทำงานอย่างไร
การพัฒนาครูให้เข้าใจถึงแนวทางการจัดการเรียนการสอนที่เน้นการสืบเสาะและพัฒนาทักษะการจัดกิจกรรมที่ส่งเสริมให้ผู้เรียนสามารถสืบเสาะและสร้างองค์ความรู้ด้วยตนเองได้จึงเป็นความจำเป็นเร่งด่วน ครูควรจัดกิจกรรมที่ให้ผู้เรียนเกิดความกระตือรือร้นที่จะเรียนรู้โดยเปิดโอกาสให้ผู้เรียนมีส่วนร่วมในการออกแบบการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ ฝึกทักษะการสังเกต และตั้งคำถามตามความสนใจ รวบรวมหลักฐานข้อมูล เพื่อออกแบบการทดลองค้นคว้า อภิปรายข้อมูล และนำเสนอข้อมูล โดยคำนึงถึงความรู้สึกของผู้เรียนด้านการรักที่จะเรียนรู้วิทยาศาสตร์ควบคู่ไปพร้อมกับความเข้าใจในมโนทัศน์เนื้อหาที่ถูกต้อง อย่างไรก็ตามเพื่อไม่ให้ยากเกินไปสำหรับผู้เรียนที่ไม่เคยมีประสบการณ์ในการจัดการเรียนรู้อย่างนี้มาก่อน ครูควรมีการพัฒนาผู้เรียนตามลำดับตั้งแต่สืบเสาะแบบปิดที่ครูกำหนดแนวทางให้ แบบเปิดปานกลางมีครูกำหนดแนวทางการศึกษาให้บางส่วน จนกระทั่งแบบเปิดกว้างโดยครูให้ผู้เรียนได้ออกแบบการสืบเสาะด้วยตนเองตามความสนใจ
โครงการ Enjoy Science เป็นอีกโครงการหนึ่งที่ช่วยพัฒนาให้ครูวิทยาศาสตร์เข้าใจและเข้าถึงกระบวนการสืบเสาะได้ง่ายขึ้น เพราะครูได้รับการพัฒนาแบบปฏิบัติจริงประกอบกับสื่อการสอนที่สร้างสรรค์ ซึ่งช่วยสร้างความมั่นใจให้กับครูที่จะนำสู่นักเรียน และความมั่นใจของผู้บริหารสถานศึกษาว่าได้ใช้แนวทางการจัดการเรียนรู้ที่มีประสิทธิภาพ จึงจัดว่าเป็นโครงการพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ที่ลงทุนแล้วได้ผลระยะยาวอย่างยั่งยืน
ข่าวสารการศึกษาไทย
สสค. เลือกชลบุรีเป็นหนึ่งในจังหวัดนำร่องเพื่อการปฏิรูปการศึกษา
โดย นายคมสัน เอกชัย ผู้ว่าราชการ จ.ชลบุรี กล่าวว่าชลบุรีเป็นจังหวัดที่มีพื้นที่เศรษฐกิจอุตสาหกรรมและแหล่งท่องเที่ยว การบริหารการศึกษาจึงควรเน้นความสำคัญต่อการผลิตกำลังคนในอนาคตให้เป็นแรงงานที่มีฝีมือเข้าสู่ภาคอุตสาหกรรม หลักสูตรการศึกษาเพื่อการมีงานทำของ จ.ชลบุรี “Chonburi Model” ได้เปิดโอกาสให้คนในพื้นที่ร่วมคิด ร่วมกำหนดทิศทางการศึกษาแก่เด็กและเยาวชน และดึงศักยภาพของภาคธุรกิจเข้ามาช่วยขับเคลื่อนการศึกษาในภาคปฏิบัติและจัดทำหลักสูตรร่วมกัน เพื่อตอบโจทย์บริบทของธุรกิจในพื้นที่โรงงานอุตสาหกรรมส่วนใหญ่ โดยหวังว่าด้วยการสนับสนุนของ สสค. ชลบุรีจะสามารถบริหารจัดการความต้องการทางการศึกษาภายในจังหวัดสำหรับนักเรียนและภาคอุตสาหกรรมได้อย่างลงตัว
แหล่งที่มา http://www.manager.co.th
กิจกรรมในอนาคต
การอบรมเชิงปฏิบัติการพัฒนาครูวิทยาศาสตร์และคณิตศาสตร์ (Roll Out Activity)
การอบรมเชิงปฏิบัติการพัฒนาครูวิทยาศาสตร์และคณิตศาสตร์จะมีขึ้นใน จ.ขอนแก่นในวันที่ 15-17 ตุลาคม และที่ จ. สมุทรปราการและ จ. สงขลาในวันที่ 21-23 ตุลาคม 2558 โดยครูวิทยาศาสตร์และคณิตศาสตร์กว่า 300 คน จะได้เรียนรู้การใช้สื่อการเรียนการสอนในเรื่องของสมการเชิงเส้น ภัยพิบัติจากธรรมชาติ ระบบร่างกายมนุษย์ และกระบวนการเรียนรู้ที่เกิดกระบวนการสืบเสาะและการแก้โจทย์ปัญหาโดยความร่วมมือระหว่างภาคีผู้เชี่ยวชาญจากมหาวิทยาลัยภายในประเทศ ครูวิทยากรและผู้เชี่ยวชาญจาก Teachers College, Columbia University